เมนู

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นวิตกและ
วิจารเสียแล้ว ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติ
อยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด
แก่บุคคลเหล่านั้น แต่จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขาร
ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, วจีสังขารก็ไม่ใช่
กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?
ใช่.
จบ วจีสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
วจีสังขารมูล จบ
ปุคคลวาระ จบ

โอกาสวาระ


กายสังขารมูล


กายสังขารมูละ ฯ ล ฯ


[1214] กายสังขารไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, ฯ ล ฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ

ปุคคโลกาสวาระ


กายสังขารมูล


กายสังขารมูละ วจีสงขารมูลี :-


[1215] กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจี-
สังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิ
ก็ดี ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลที่เกิดอยู่ในกามา-
วจรภูมิก็ดี เว้นลมอัสสสาสะปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ใน
อุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิด
อยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้น แต่วจีสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิต
ที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจาร จักเกิด
ในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี
ในภังคขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะก็ดี เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะของ
บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในอุปปาทขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้า
จตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่
กำลังเกิด และวจีสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.